ความเชื่อเรื่องนมแม่


1. ให้ลูกดูดนมแม่มาตลอด จนตอนนี้เขาอายุใกล้จะครบขวบแรกแล้ว เคยได้ยินมาว่าการให้ลูกดูดนมแม่สามารถช่วยคุมกำเนิดได้ จริงหรือเปล่า"

มี งานวิจัยเพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับผลในการคุม กำเนิด พบว่าแม่ที่ให้ลูกดูดนมแม่อย่างเดียว โดยไม่ให้นม น้ำ หรืออาหารเสริมเลย ใน 6 เดือนแรก จะช่วยยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีประจำเดือนเลย มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงเทียบเท่ากับการคุมกำเนิดโดยวิธีอื่น ( 98 เปอร์เซนต์) 

แต่หลังจากที่ลูกได้รับอาหารเสริมหลังอายุ 6 เดือน ทำให้การดูดนมแม่ไม่บ่อยเท่าเดิม ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะลดลง จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ จึงต้องคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นต่อไป และพบว่าแม่ที่ให้นมลูกโดยไม่ใช้นมผงเลย มีเพียงอาหารเสริมตามวัยเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีประจำเดือนหลังลูกอายุครบขวบ ดังนั้นจึงเป็นความฉลาดของธรรมชาติที่ลงตัว โดยกำหนดมาแล้วว่าหากแม่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองเท่านั้น ระยะห่างในการมีบุตรคนต่อไปจะเว้นช่วงพอดีๆ แม่ก็ไม่เหนื่อยเกินไปและร่างกายก็ไม่ทรุดโทรมเกินไป ดังนั้นคนในสมัยโบราณ ก่อนที่จะมีวิธีการคุมกำเนิดก็มีลูกปีเว้นปีพอดีๆ โดยไม่เดือดร้อน และไม่ต้องใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนอื่นเข้าสู่ร่างกายเพื่อคุมกำเนิดให้เสี่ยง ต่อผลข้างเคียง ถึงแม้จะมีไม่มากก็ตาม 

ส่วนคุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูก หลังคลอดก็จะมีการตกไข่ตามปกติ หากยังไม่พร้อมมีคนต่อไป จะต้องใช้วิธีคุมกำเนิดค่ะ

แล้วอย่างนี้การที่ลูกดูดนมนานเป็นปี จะทำให้มีลูกคนต่อไปยากขึ้นไหม 

คำตอบคือ หากไม่รีบร้อนที่จะมีคนต่อไป รอให้เป็นไปตามธรรมชาติจริงๆ เมื่อลูกคนโตอายุ 1-2 ปี ซึ่งเป็นระยะห่างที่เหมาะสม เพราะการมีลูกติดๆกันเกินไป จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ทรุดโทรม และ ลูกแต่ละคนจะได้รับการดูแลจากคุณแม่ได้ไม่เต็มที่ เมื่อลูกอายุประมาณ 1-2 ปี ถึงแม้ว่ายังไม่หยุดให้น้ำนมแม่ ก็จะเริ่มมีประจำเดือนเหมือนเดิม การให้นมแม่นาน ไม่ได้ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อไปแต่อย่างใด ตรงกันข้ามคืออาจช่วยทำให้การมีลูกคนต่อไปมีง่ายขึ้น ในกรณีที่คุณแม่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่ (endometriosis หรือ chocolate cyst) กว่าจะได้ลูกคนโตมา คุณแม่อาจผ่านการรักษาลดพังผืดด้วยวิธีต่างๆ เช่น ฉีดยาไม่ให้มีประจำเดือน หรือส่องกล้องเพื่อเลาะพังผืด เมื่อคลอดลูกคนแรกแล้ว หากต้องการมีคนต่อไปให้ง่ายขึ้น โดยที่คุณแม่ไม่ต้องผ่านวิธีการเหมือนตอนมีคนแรก คุณหมอสูติจะแนะนำให้คุณแม่ให้นมลูกอย่างเดียว (exclusive breastfeeding) เพื่อกดการทำงานของรังไข่ไว้ ไม่ให้มีประจำเดือน เพราะการที่คุณแม่มีประจำเดือนในแต่ละรอบเดือน จะทำให้มีพังผืดเพิ่มมากขึ้นในช่องท้อง การให้ลูกคนโตดูดนมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปล่อยให้มีคนที่สองเมื่อพร้อม จะช่วยไม่ให้พังผืดเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การมีลูกคนต่อไปง่ายขึ้น

2. "เคยได้ยินมาว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีฉีดยาคุมกำเนิดจะทำให้มีน้ำนมมากขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่าไร"

การคุมกำเนิดด้วยวิธีฉีดยาคุมกำเนิด (DMPA) หรือ กินยาคุมกำเนิด Exluton , Cerazette ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเดี่ยว ไม่มีเอสโตรเจน ไม่สามารถทำให้น้ำนมมากขึ้น เพียงแต่ว่า หากเปรียบเทียบกับวิธีคุมกำเนิดโดยวิธีกินยาคุมกำเนิดซึ่งมีส่วนผสมของฮอร์โมนเอส โตรเจนด้วย จะส่งผลกับการลดการผลิตน้ำนมน้อยกว่า หรือ ไม่ส่งผลลดการสร้างน้ำนมเลย แต่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะน้อยกว่าชนิดมีเอสโตรเจน คือ 96% และ 99%

ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดชนิดโปรเจสเตอโรน คือ ถ้ากินต่อเนื่องทุกเดือน ประจำเดือนอาจหายไป แต่เมื่อหยุดยา ประจำเดือนกลับมาเหมือนเดิม และ บางคนอาจมีเลือดออกแบบกระปริบกระปรอย แต่อาจดีขึ้นด้วยการกินยาเวลาเดียวกันทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก หากกินยาช้ากว่าเวลาเดิมนานเกิน 3 ชั่วโมง อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ ผลข้างเคียงอื่น เช่น สิว ขน อ้วน ซึม คลื่นใส้ ปวดศรีษะ เต้านมตึงคัด 

การคุมกำเนิดที่ไม่ส่งผลลดการผลิตน้ำนมเลย คือ การใช้ถุงยางอนามัย การใส่ห่วงชนิดที่ไม่มีฮอร์โมน ไม่แนะนำการใช้วิธีการหลั่งภายนอกช่องคลอดเพราะอาจมีผิดพลาดตั้งท้องได้

การจะทำให้น้ำนมมากขึ้น ทำได้โดย การดูดถูกวิธี งับให้ลึกถึงลานหัวนมเพื่อให้ได้น้ำนมเต็มที่และดูดให้เกลี้ยงเต้า การให้ลูกดูดบ่อยๆ เพราะเมื่อน้ำนมเกลี้ยงเต้า สมองส่วนที่ควบคุมการสร้างน้ำนมจึงจะส่งสัญญาณให้สร้างน้ำนมเพิ่ม คุณแม่ควรทานอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนและดื่มน้ำอุ่นมากๆ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการจัดสรรงานอื่นให้ผู้อื่นทำ เพื่อคุณแม่จะได้ให้ลูกได้ดูดนมได้บ่อยเท่าที่ลูกต้องการ โดยไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป คุณแม่ที่กลับไปทำงานนอกบ้านควรปั๊มน้ำขณะอยู่ที่ทำงานบ่อยๆ ทุก 2-3 ชม. อย่ารอจนรู้สึกคัดแล้วค่อยปั๊ม เพราะจะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้ค่ะ

3. "กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้นมแม่ได้ไหม"

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีข้อบ่งใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น คำว่าෳฉุกเฉิน" ในที่นี้หมายความถึง การมีเพศสัมพันธ์ในคู่สามีภรรยา ที่มีการวางแผนครอบครัว และทำการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่เกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ เช่น การรั่วหรือฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดที่กินประจำตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป เป็นต้น หรือใช้ในกรณีผู้หญิงที่ถูกข่มขืน

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน Postinor 1 แผงมียา 2 เม็ด การกินยาที่ถูกต้องคือ กินยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ก็ไม่ 100% หากเกิน 72 ชั่วโมง ไปแล้ว จะไม่ได้ผล และจะต้องกินยาเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยาแต่ละเม็ด ต้องกินยาใหม่ หรือ จะกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทั้ง 2 เม็ด พร้อมกันในครั้งเดียวได้ โดยที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่แตกต่างจากการแบ่งกินเป็น 2 ครั้ง จะทำให้เกิดความสะดวกมากกว่าการกินยา 2 ครั้ง เพราะอาจลืมได้ แต่อาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียนมากกว่าการแบ่งกิน 2 ครั้ง

>>> การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบ่อยๆ จะเพิ่มความเสี่ยงความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก *** ดังนั้นการใช้ยานี้จึงควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และไม่แนะนำให้รับประทานเกิน 4 เม็ดต่อเดือน

จึงไม่ควรใช้วิธีนี้เป็นการคุมกำเนิดระยะยาว เพราะนอกจากประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะน้อยกว่ายาคุมกำเนิดปกติ ยังพบอาการข้างเคึยงต่อไปนี้มากกว่า เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เลือดออกกระปริบกระปรอย ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ

ยานี้ไม่ใช่ยาทำแท้ง และ ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เราไม่ทราบว่ามีโรคติดต่อไหม ต้องป้องกันโรคโดยใช้ถุงยางอนามัย

สำหรับข้อสงสัยว่า หากกินยาคุมกำเนิดกำเนิดฉุกเฉิน ต้องงดการให้นมแม่ หรือ ปั๊มนมทิ้งไหม คำตอบ คือ ไม่ต้องงดค่ะ สามารถให้นมแม่ได้ตามปกติค่ะ

ขอขอบคุณที่มา คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ,http://www.thaibabyguide.net