'น้องเจมส์' ไม่อยากไปโรงเรียน?




เจมส์ "เด็กป่วยที่ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ใช่เพราะความขี้เกียจ แต่เพราะเรียนไม่ทันเพื่อน"
.
"ให้ทำกิจกรรม ให้เล่นนันทนาการทั้งวัน เจมส์จะชอบมากเลย แต่พอเป็นวิชาการ จะหัดเขียนหยิบจับอะไรที ก็ดูยากไปหมด"เสียงของแม่น้องเจมส์ เด็กป่วยเรื้อรัง เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง กว่าการไปโรงเรียน
.
5ปี ก่อนกับการต้องหยุดเรียนเพื่อมารักษาตัวในโรงพยาบาลเกือบๆ หนึ่งปี ทำให้การเริ่มต้นกลับไปเรียนใหม่ หยิบจับคัดลายมืออะไรๆ ก็ไม่เข้าที่เข้าทางไปเสียหมด
.
ในวัย 11 ปีนี้ เจมส์ควรจะได้เรียนชั้นป.5 แต่ในวันนี้ต้องเรียนอยู่ชั้นป.2 และมีวี่แววจะได้ซ้ำชั้นอีกรอบจากการขาดเรียนบ่อยครั้ง ด้วยเหตุผลเรียนไม่ทันเพื่อน
สิ่งที่ผู้ปกครองทำได้ คือ การมองหาโรงเรียนใหม่ที่เน้นกิจกรรมมากกว่าวิชาการ ค่อยๆ แก้ปัญหาทีละเป็นเรื่องๆ ไป ตามสถานการณ์
.
การพาเจมส์มาเที่ยวทะเลหัวหินครั้งนี้ เป็นการให้กำลังใจเจมส์อีกทางหนึ่ง
เพื่อให้น้องกลับไปสู้เรื่องเรียนอีกครั้ง
"ถ้าเจมส์ไปโรงเรียน ไม่ขาดเรียนบ่อยๆ
ไว้พี่จะพาเจมส์มาเที่ยวอีกนะ"
ขอมือ give me five สัญญากันนะ
.
มองดูภายนอกเจมส์ อาจจะดูเห็นเด็กปกติ
มองเผินๆ คือ เด็กปกติคนหนึ่ง
แต่ทุกวันนี้เจมส์ยังคงเป็นเด็กป่วยเรื้อรังด้วยโรคลำไส้สั้น มีแผลเป็นที่หน้าท้องเพื่อเจาะสายให้อาหารทางสายยาง
.
แม้การออกไปเที่ยวจะเป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ
แต่การที่เด็กป่วยและครอบครัวได้ใช้เวลาปลอบประโลมจิตใจกัน หันมาเยียวยาซึ่งกันและกันด้วยการออกไปเที่ยวนอกบ้าน นอกโรงพยาบาล
พบเจอสิ่งเเวดล้อมใหม่ๆ นั้นก็เพียงพอให้เด็กป่วยและครอบครัวมีกำลังใจลุกสู้กับสิ่งต่างๆ ที่รุมเร้าอีกครั้งหนึ่ง