ชีวิตยืนยาวด้วยศิลปะ


ชีวิตยืนยาวด้วยศิลปะ

ศิลปะยืนยาว สะท้อนอยู่ในชีวิตคุณแม่ชุมสาย มีสมสืบ อายุ 79 ปี คุณแม่ของคุณศักดิ์ศิริ มีสมสืบ กวีซีไรต์ เพราะศิลปะได้ฝังรากลึกอยู่ในตัวตนผ่านกาลเวลามาเท่าชีวิตของท่าน

 

   ෳถ้าพูดถึงศิลปะทางด้านวาดภาพ ชอบมาแต่เด็กเลย ตั้งแต่เป็นนักเรียนชั้นประถมที่รู้จักสีเทียนแท่งเล็กๆ ที่ครูให้มา ชอบมาเรื่อยจนมัธยม ปีใหม่ก็ชวนกันกับเพื่อนๆทำ สคส.เอง เอากระดาษมาวาดเขียนมาทำง่ายๆ แลกกันส่งกันในจำนวนพวกเพื่อนๆด้วยกัน

   หลังจากนั้นชีวิตก็ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว ชีวิตมีแต่ธุรกิจการงาน จนไม่มีเวลาให้ตัวเองทำในสิ่งที่ชอบ แม้จะเกษียณตัวเองตั้งแต่วัย 49 ปี ก็ยังมีความเป็นห่วงสารทุกข์สุกดิบของลูกๆอยู่มาก ทั้งหลายทั้งปวงนี้เองทำให้คุณแม่ชุมสายไม่มีเวลาหวนกลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรักอีกเลยร่วม 50 ปี

 

   ในที่สุดก็เหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อคุณแม่ชุมสายหันไปเห็นกองสีกองแปรงของลูกชาย (คุณศักดิ์ศิริ มีสมสืบ) ที่วางอยู่ สีสันต่างๆ กลับมาปลุกความสุขที่เคยคุ้นในวัยเยาว์ และท่านก็พร้อมที่จะแต่งแต้มความสุขเช่นในวันวานให้กับตัวเองอีกครั้ง

ละเลงสีชุ่มหัวใจ

 

   ෳครั้งแรก เริ่มจากหยิบพู่กันมาป้ายสี แต้มสีลงไปแล้ว พอเราได้เห็น นั่นก็สีสด นั่นก็สวย ก็ลองทำไปเรื่อย ตอนแรกก็เขียนผิดๆถูกๆ ครั้งแรกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชนิดไหนสีน้ำ สีน้ำมัน บางทีก็ไปเอาสีน้ำมันเขามาแล้วก็ละลายกับน้ำเขียน สนุกดีเหมือนกัน(หัวเราะ)

 

   ෳเราวาดภาพจากสิ่งที่ประทับใจ ประทับใจอะไร ก็วาดลงไป อย่างเราเห็นเสน่ห์ของชนบทที่แตกต่างจากเมือง เห็นสังคมที่อบอุ่น เป็นพี่เป็นน้องช่วยเหลือกลมเกลียว บริสุทธิ์ใจ ความสุขของท้องถิ่นยังมีให้ชื่นชมอีกมาก อย่างภาพแม่ค้าร้องขายกล้วย เป็ดไล่ทุ่ง คนกำลังยืนสอยมะม่วงอยู่ เราก็เกิดจากความประทับใจ ภาพเสร็จเราหันกลับมาดูก็ชื่นใจ

 

   นอกจากนี้คุณแม่ยังมีความสุขใจสองต่อ จากการวาดภาพถ่ายทอดจินตนาการตามบทเพลงที่ตัวเองประทับใจออกมาเป็นภาพแสนสวย จากการได้วาดภาพวันละนิดวันละหน่อยด้วยวิธีการดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ทำให้ท่านค้นพบว่าการวาดภาพด้วยวิธีของตัวเองนี้ช่วยคลายเครียดคลายความวิตกกังวลลงได้ จากเดิมที่เคยเป็นห่วงลูกๆหลานๆ ตามประสาผู้สูงอายุทั่วไป ก็ผ่อนคลายลงได้มาก ทั้งยังเป็นสิ่งที่ทำให้มีสติและสมาธิได้อย่างดียิ่งด้วย

 

   ෳบางทีที่เราเกิดความเครียดหรือกังวลการวาดภาพช่วยได้ อย่างเมื่อก่อนจะเป็นห่วงลูกห่วงหลาน อย่างเขานั่งรถมาก็ไปห่วงเขาว่ารถจะลื่นหรืออะไร เรื่องไม่ควรจะทุกข์ก็ทุกข์ เรื่องนิดๆหน่อยไม่ควรเอามากังวล ก็ไปหาทุกข์ใส่ตัว คนอายุมากว่างนักไม่ดี เพราะจะหงุดหงิด มีโรคแทรกโรคซ้อน ถ้ามีงานทำก็จะสบายใจ เพราะการได้วาดภาพทำให้เรามีสติอยู่เรื่อยๆ ทั้งเป็นเพื่อนแก้เหงา คิดไป ทำไป ช่วยให้จิตอยู่เป็นที่ เหมือนมีสติ สมาธิ คอยเตือนตัวเองว่าเราไม่ต้องไปกังวลมากขนาดนั้นก็ได้

 

 

 

 

สมองแจ่มใสในวัยใกล้ 80

 

   นอกจากงานศิลปะที่ทำจะเติมเต็มความสุขทางจิตใจได้ดีทางหนึ่งแล้ว ยังมีผลทำให้สุขภาพสมองว่องไวกว่าคนในวัยเดียวกัน

 

   ෳแรกเริ่มเราต้องสังเกตจากสิ่งรอบๆตัว อย่างรูปแรกที่วาดจะเป็นดอกไม้ เพราะอยู่ใกล้ตัว เรารดน้ำเห็นอยู่ทุกวัน แค่แต้มสีให้สดเข้าไว้ แบบว่ามองไกลๆ ให้รู้ว่าดอกไม้เท่านี้ก็แล้วกัน ต่อไปก็เป็นทิวทัศน์ ภูเขา ต้นไม้ แม่น้ำ อย่างเราอยู่บ้านนอก เดินผ่านป่าตาล ก็สังเกตและจำได้ พอจะลงมือวาด ก็หลับตานึก ต้นตาลสีอะไร ควรมีลายอะไรตรงไหน จะขรุขระยังไง ใบแห้ง ใบสด จะวาดต้นตาลสัก2-3 ต้น คว้าสีมาได้ ก็ละเลงๆไป ป้ายต้นขึ้นไปก่อน ตรงนี้ต้นหนึ่ง ต้นนั้นต้นหนึ่ง ทำไปอย่างนั้นเลย แล้วก็ค่อยแต่งค่อยเติม รายละเอียดของภาพ เราจำได้ไม่หมด ก็มาจินตนาการต่อเติมบ้าง

   จากคำบอกเล่าจะเห็นได้ว่า คุณแม่ชุมสายได้ฝึกสมองจากการสังเกต จดจำ และการใช้จินตนาการอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้การวาดภาพยังเป็นโอกาสดีที่ทำให้ท่านได้ใช้สมองในการคิดที่มีลักษณะซับซ้อนขึ้นในเรื่องของการวางแผนและการแก้ปัญหา

 

   ෳตอนวาดภาพเราต้องคิด วางแผน ต้องวางองค์ประกอบ ตั้งแต่จะเขียนรูปอะไร จะใช้อะไรเป็นจุดโฟกัส จะเอาตรงไหนเด่น อยากสื่อตรงไหนเป็นพิเศษ จะใส่องค์ประกอบต่างๆ อย่างไร บางครั้งก็ต้องแก้ปัญหาในงานที่ทำ วาดทีเดียวอาจไม่ได้ บางครั้งมีแก้ แต่อย่างผ้าใบนี่ลบได้ ก็ค่อยๆทำไปจนพอใจ

 

   นอกจากสุขภาพสมองจะดีแล้ว ยังพบว่าทำให้สุขภาพด้านอื่นๆดีขึ้นด้วย

 

   ෳการได้วาดภาพ ทำให้เราก็มีความสุข อารมณ์ดี ความดันก็ไม่ขึ้น หมอนัดเจาะเลือดเดือนที่แล้ว ก็บอกว่าดี อีกอย่างการได้วาดภาพทุกวัน ก็เป็นการฝึกกำลังข้อมือได้ด้วย

 

   ก่อนจากกันคุณแม่บอกเคล็ดลับสำหรับคนที่อยากมีสร้างความสุขให้กับตัวเองแบบเดียวกันนี้บ้างว่าทำใจสบายๆ แล้วก็ลงสีไปเลย

 

   ปัจจุบันทุกๆวันคุณแม่จะใช้เวลาหลัง 9 โมงไปแล้ว หลังจากหลานๆไปโรงเรียนกันหมดแล้ว วาดภาพตามอัธยาศรัย อย่างที่คุณแม่บอกว่า วาดๆหยุดๆ เดินคุยกับเพื่อนบ้านบ้าง ทำไปเล่นไป

 

   จากการพูดคุยกับคุณแม่และการได้ชื่นชมภาพวิถีชนบท สีอันสดใส จับใจ ที่สะท้อนปรัชญาชีวิตอันเรียบง่าย ทำให้ยิ่งรู้ซึ้งถึงคุณของศิลปะที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนเรา แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่สมควรยกย่องและเอาเยี่ยงอย่าง คือ... การมีศิลปะในการใช้ชีวิตจนทำให้ชีวิตยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีนั่นเอง

 

 

ที่มา  http://www.cheewajit.com/experience.asp?page=1&hid=