ห่างโรคภัย ด้วยผักในฤดูกาล

ทุกวันนี้บริบทของการเจ็บป่วยได้เปลี่ยนไป มนุษย์ทุกวันนี้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง โรคต่างๆ เหล่านี้ล้วนสัมพันธ์กับการบริโภค ซึ่งไม่เพียงแค่การรับประทานไม่เหมาะสม แต่ยังรวมถึงการบริโภคสารเคมีจำพวกยาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่ในพืชผักไปด้วย ดังนั้น การรักษาโรคที่ปลายเหตุหรือแก้ที่การเจ็บป่วยที่เป็นผลลัพธ์สุดท้ายไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป แต่ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือสิ่งที่ผู้คนรับประทาน

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้ออกให้ความรู้กับประชาชนในการเลือกบริโภคพืชผักปลอดสารพิษตามฤดูกาล เนื่องจากพืชผักที่ขึ้นตามฤดูกาลนั้น จะไม่มีการใช้สารเคมี
ตามภูมิปัญญาไทยได้กล่าวไว้ว่า พืชผักใดที่ขึ้นที่ไหนในฤดูกาลใดก็จะใช้แก้ไขหรือป้องกันความเจ็บป่วยในฤดูกาลนั้นๆ ได้
ตัวอย่างของพืชผักดังกล่าว เช่น ดอกโสน เป็นพืชที่หาได้ง่ายในท้องนาและริมคลองในเมืองไทย คนสมัยก่อนจะนำมาทำขนมดอกโสนที่รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยขนมดอกโสนเป็นตำรับอาหารปรับธาตุในช่วงปลายฝนต้นหนาวได้ดี จากรสเย็นของดอกโสนที่จะช่วยระบายความร้อนในฤดูกาลนี้

ในขณะเดียวกันก็ใช้มะพร้าวไปลดความเย็นของดอกโสนที่อาจจะส่งผลต่อร่างกายมากเกินไป หรืออธิบายตามหลักโภชนาการสมัยใหม่ ขนมดอกโสน คือ วิธีการที่จะใช้กะทิไปช่วยในการดูดซึมวิตามินเอซึ่งมีมากในดอกโสนช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังมีพืชน้ำอีกประเภทหนึ่งที่หาได้ง่าย คือ บัวหลวงซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน โดยดอกนำมาไหว้พระ, ดีบัว มีสารช่วยทำให้เส้นเลือดขยายตัว นำมาใช้รักษาโรคหัวใจได้, เกสรบัว เข้ายาหอมเป็นยาบำรุงหัวใจ ปรับอารมณ์ให้แจ่มใส, เมล็ดใช้รับประทานเป็นอาหาร, เหง้าใช้ปรุงเป็นอาหารได้ทั้งคาวหวานและรากบัวขับเสมหะ ෳยังมีพืชผักสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมาย ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงอยากเชิญชวนผู้บริโภคหันมาบริโภคพืชผักตามฤดูกาล ที่ให้ทั้งคุณค่าทางอาหาร และคุณค่าทางยา แถมยังปลอดสารพิษอีกด้วย෴ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ