ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนบริจาคเลือด
ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนบริจาคเลือด
จากกรณีที่สภากาชาดไทย ได้ประกาศวอนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วยด่วน เนื่องจากขาดแคลนเลือดทุกกรุ๊ปนั้น เชื่อว่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้มีจิตอันเป็นกุศล และเสียสละ แห่ไปบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมากขึ้น จึงอยากให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ประสงค์จะไปบริจาคโลหิตว่า ควรจะเตรียมตัวร่างกายให้พร้อม เพื่อโลหิตที่ตั้งใจบริจาคจะได้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่ทั้งผู้รับและผู้ให้ดังนี้
1.ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในเวลาปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่จะมาบริจาคโลหิต
2.ควรมีสุขภาพสมบูรณ์ทุกประการ ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาแก้อักเสบใดๆ
3.รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ อาหารที่ประกอบด้วยกะทิ แกงต่างๆ ของทอด ของหวาน ฯลฯ เนื่องจากจะทำให้สีพลาสมาผิดปกติ เป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้
4.ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศีรษะภายหลังบริจาคโลหิต
5.งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนมาบริจาคโลหิต 24 ชม.
6.งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชม. เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี
นอกจากนั้น ชมรมบริจาคโลหิตยังมีข้อแนะนำเพิ่มเติมว่า ขณะบริจาคโลหิตควรสวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้ว เลือกแขนข้างที่เส้นโลหิตดำใหญ่ชัดเจน ที่สามารถให้โลหิตไหลลงถุงได้ดี ผิวหนังบริเวณที่จะให้เจาะไม่มีผื่นคันหรือรอยเขียวช้ำ ถ้าแพ้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า ทำตัวตามสบาย อย่ากลัว หรือวิตกกังวล ไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอมขณะบริจาคโลหิต ขณะบริจาคควรบีบลูกยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้โลหิตไหลได้สะดวก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น วิงเวียน มีอาการคล้ายจะเป็นลม อาการชา อาการเจ็บที่ผิดปกติ ต้องรีบแจ้งให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้นทราบทันที หลังบริจาคโลหิตเสร็จเรียบร้อย ห้ามลุกทันที ให้นอนพักสักครู่จนกระทั่งรู้สึกสบายดี จึงลุกไปดื่มน้ำและรับประทานอาหารว่างที่จัดไว้รับรอง
เมื่อเร็วๆ นี้ พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประสบปัญหาจัดหาโลหิตไม่ได้ตามเป้าหมาย คือ จะต้องได้รับโลหิตบริจาควันละอย่างน้อย 1,500 ยูนิต จึงจะเพียงพอสำหรับผู้ป่วย แต่สถานการณ์โลหิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ พบว่ามีผู้บริจาคโลหิตลดลง จากเดิมที่ได้รับโลหิตบริจาควันละ 1,500-2,000 ยูนิต เหลือเพียงวันละ 1,200 ยูนิต ทำให้ไม่มีโลหิตสำรองคงคลัง ซึ่งตามมาตรฐานต้องมีโลหิตสำรองวันละอย่างน้อย 3,000 ยูนิต จึงจะเพียงพอสำหรับผู้ป่วย
ในขณะที่ยอดการขอใช้โลหิตสำหรับรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 120 แห่ง มีจำนวนเพิ่มสูงเกิน 2 เท่าของโลหิตที่ได้รับบริจาค คือ วันละ 5,000 ยูนิต แต่ศูนย์บริการโลหิตฯ สามารถจ่ายโลหิตให้ได้เพียงวันละประมาณ 1,400 ยูนิตเท่านั้น จึงขอวอนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมาก บริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์
เวลาเปิดรับบริจาคโลหิต วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ เวลา 08.00-16.30 น. วันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 07.30-19.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-15.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร. 0-2256-4300, 0-2263-9600-99 ต่อ 1101
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์