SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 1235
กินยาคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่สาว ๆ นิยมใช้ เพราะดูแล้วไม่ยุ่งยาก แต่ก็ต้องระวังผลข้างเคียงยาคุมกำเนิดไว้บ้างนะ !
สำหรับ คู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็คงต้องหาทางคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ และหลายคนก็อาจจะเลือกให้ฝ่ายหญิงเป็นคนคุมกำเนิดด้วยวิธีรับประทานยาคุม กำเนิด เพราะก็ดูจะเป็นวิธีที่ง่าย และค่อนข้างจะคุมกำเนิดได้แน่นอน แต่ก่อนจะเลือกใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธี เราอยากให้คุณสาว ๆ ได้รู้ถึงผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดเสียก่อนค่ะ
1. คลื่นไส้อาเจียน
ผลข้างเคียงอันดับต้น ๆ ที่มักจะพบอยู่บ่อย ๆ ในผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิด ก็คือ อาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งโดยปกติแล้วอาการนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นอาการคลื่นไส้ก็จะหายไป แต่ถ้าหากว่า หลัง 2-3 เดือนแล้วอาการคลื่นไส้อาเจียนยังอยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินอาหารแล้วค่อยกินยา แต่ถ้ายังไม่หายอีก คราวนี้คงต้องเลิกกินยาคุมกำเนิด แล้วหันไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น อย่างสวมถุงยางอนามัย หรือใส่ห่วงแล้วล่ะค่ะ
2. ความต้องการทางเพศลดลง
ยาคุมกำเนิดมีผลต่ออารมณ์ทางเพศของผู้หญิงเราเช่นกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันระยะเวลาหนึ่ง อาจจะส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง จนเป็นเหตุให้เบื่อหรือไม่มีอารมณ์ร่วมเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนรักได้ ดังนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ลองหยุดกินยาคุมกำเนิด แล้วคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติดูบ้าง ก็จะช่วยให้อารมณ์ทางเพศคุณกลับมาเป็นปกติดังเดิม
3. คัดหน้าอก ปวดหัว และเวียนศีรษะ
อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการข้างเคียงยอดนิยมที่ผู้รับประทานยาคุมกำเนิดเกือบ ทุกคนต้องเจอ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาบอกว่า ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการข้างเคียงเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และจะค่อย ๆ หายไปในที่สุด อีกทั้งยังไม่เคยพบว่ามีผู้ใดที่กินยาคุมกำเนิดแล้วจะมีอาการเหล่านี้เกิด ขึ้นกับร่างกายตลอดการรับประทานยาเลยด้วย
4. อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียว
เนื่องจากในยาคุมกำเนิดประกอบไปด้วยฮอร์โมน จึงเป็นไปได้ที่จะเข้าไปแทรกแซงฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายเรา ทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น หงุดหงิดง่าย อารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น และอารมณ์แปรปรวนได้ ซึ่งแพทย์ก็ได้ให้ความเห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนยาคุมกำเนิด ก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้อาการเหล่านี้หายไปเท่าไร เพราะยาคุมกำเนิดทุกยี่ห้อ ต่างก็มีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากจะแก้อาการเหล่านี้ก็อาจจะต้องกินยาลดอาการซึมเศร้า (Anti-Depressants) ร่วมด้วย แต่ในระยะยาวให้ลองกินยาคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมน (non-hormonal contraceptives)
5. น้ำหนักขึ้น ตัวบวม
เชื่อว่าข้อนี้เป็นผลข้างเคียงที่ผู้หญิงทุกคนรู้ และระวังกันเป็นอย่างยิ่ง แต่บางคนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงนี้ได้เลย อีกทั้งผลการวิจัยทางการแพทย์ยังยืนยันอีกด้วยว่า ผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิด จะมีน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 3 กิโลกรัมต่อปี และการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เสมอไป ดังนั้นหากไม่อยากมีผลข้างเคียงเช่นนี้ แนะนำให้เลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติดีกว่าค่ะ
6. ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
ผลข้างเคียงนี้ก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่มักจะพบได้บ่อย ๆ ซึ่งก็เกิดจากร่างกายขับของเสียออกมาไม่หมด ทำให้ประจำเดือนออกน้อย ซึ่งแพทย์ระบุว่า อาการข้างเคียงนี้เป็นผลจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ในตัวยา และหากจะรักษาอาการข้างเคียงนี้ก็ต้องเลือกกินยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโต รเจนในปริมาณน้อย
7. เลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน
อาการข้างเคียงนี้มักจะเกิดกับคนที่เริ่มกินยาคุมกำเนิดใหม่ ๆ และกินยาไม่ถูกวิธี เช่น กินยาไม่ตรงเวลา ไม่ตามแผงลูกศร หรือลืมกินยาในบางวัน ซึ่งก็จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายปรวนแปร เกิดอาการปรับตัวไม่ทัน จนเป็นเหตุให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือนได้ โดย และหากปรับการกินยาคุมกำเนิดถูกวิธีแล้ว อาการยังไม่่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขต่อไปค่ะ
อย่าง ไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นยาอะไร ก็ย่อมต้องมีผลข้างเคียงบ้างไม่มากก็น้อย อยู่ที่สภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย โดยเฉพาะกับยาคุมกำเนิด ดังนั้น คงดีกว่าหากเราจะปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนจะรับประทานยา หรือจะเลือกวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่น ๆ ก็ได้ค่ะ
ที่มา www.kapook.com
ผลข้างเคียงยาคุมกําเนิด...ก่อนจะใช้ ไม่รู้ไม่ได้นะ !
กินยาคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่สาว ๆ นิยมใช้ เพราะดูแล้วไม่ยุ่งยาก แต่ก็ต้องระวังผลข้างเคียงยาคุมกำเนิดไว้บ้างนะ !
สำหรับ คู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็คงต้องหาทางคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ และหลายคนก็อาจจะเลือกให้ฝ่ายหญิงเป็นคนคุมกำเนิดด้วยวิธีรับประทานยาคุม กำเนิด เพราะก็ดูจะเป็นวิธีที่ง่าย และค่อนข้างจะคุมกำเนิดได้แน่นอน แต่ก่อนจะเลือกใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธี เราอยากให้คุณสาว ๆ ได้รู้ถึงผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดเสียก่อนค่ะ
1. คลื่นไส้อาเจียน
ผลข้างเคียงอันดับต้น ๆ ที่มักจะพบอยู่บ่อย ๆ ในผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิด ก็คือ อาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งโดยปกติแล้วอาการนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นอาการคลื่นไส้ก็จะหายไป แต่ถ้าหากว่า หลัง 2-3 เดือนแล้วอาการคลื่นไส้อาเจียนยังอยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินอาหารแล้วค่อยกินยา แต่ถ้ายังไม่หายอีก คราวนี้คงต้องเลิกกินยาคุมกำเนิด แล้วหันไปคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น อย่างสวมถุงยางอนามัย หรือใส่ห่วงแล้วล่ะค่ะ
2. ความต้องการทางเพศลดลง
ยาคุมกำเนิดมีผลต่ออารมณ์ทางเพศของผู้หญิงเราเช่นกัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หากกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันระยะเวลาหนึ่ง อาจจะส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง จนเป็นเหตุให้เบื่อหรือไม่มีอารมณ์ร่วมเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนรักได้ ดังนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า ลองหยุดกินยาคุมกำเนิด แล้วคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติดูบ้าง ก็จะช่วยให้อารมณ์ทางเพศคุณกลับมาเป็นปกติดังเดิม
3. คัดหน้าอก ปวดหัว และเวียนศีรษะ
อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการข้างเคียงยอดนิยมที่ผู้รับประทานยาคุมกำเนิดเกือบ ทุกคนต้องเจอ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาบอกว่า ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการข้างเคียงเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และจะค่อย ๆ หายไปในที่สุด อีกทั้งยังไม่เคยพบว่ามีผู้ใดที่กินยาคุมกำเนิดแล้วจะมีอาการเหล่านี้เกิด ขึ้นกับร่างกายตลอดการรับประทานยาเลยด้วย
4. อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียว
เนื่องจากในยาคุมกำเนิดประกอบไปด้วยฮอร์โมน จึงเป็นไปได้ที่จะเข้าไปแทรกแซงฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายเรา ทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น หงุดหงิดง่าย อารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้น และอารมณ์แปรปรวนได้ ซึ่งแพทย์ก็ได้ให้ความเห็นว่า การแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนยาคุมกำเนิด ก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้อาการเหล่านี้หายไปเท่าไร เพราะยาคุมกำเนิดทุกยี่ห้อ ต่างก็มีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากจะแก้อาการเหล่านี้ก็อาจจะต้องกินยาลดอาการซึมเศร้า (Anti-Depressants) ร่วมด้วย แต่ในระยะยาวให้ลองกินยาคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมน (non-hormonal contraceptives)
เชื่อว่าข้อนี้เป็นผลข้างเคียงที่ผู้หญิงทุกคนรู้ และระวังกันเป็นอย่างยิ่ง แต่บางคนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงนี้ได้เลย อีกทั้งผลการวิจัยทางการแพทย์ยังยืนยันอีกด้วยว่า ผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิด จะมีน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 3 กิโลกรัมต่อปี และการเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิดก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เสมอไป ดังนั้นหากไม่อยากมีผลข้างเคียงเช่นนี้ แนะนำให้เลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติดีกว่าค่ะ
6. ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
ผลข้างเคียงนี้ก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่มักจะพบได้บ่อย ๆ ซึ่งก็เกิดจากร่างกายขับของเสียออกมาไม่หมด ทำให้ประจำเดือนออกน้อย ซึ่งแพทย์ระบุว่า อาการข้างเคียงนี้เป็นผลจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ในตัวยา และหากจะรักษาอาการข้างเคียงนี้ก็ต้องเลือกกินยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโต รเจนในปริมาณน้อย
7. เลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน
อาการข้างเคียงนี้มักจะเกิดกับคนที่เริ่มกินยาคุมกำเนิดใหม่ ๆ และกินยาไม่ถูกวิธี เช่น กินยาไม่ตรงเวลา ไม่ตามแผงลูกศร หรือลืมกินยาในบางวัน ซึ่งก็จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายปรวนแปร เกิดอาการปรับตัวไม่ทัน จนเป็นเหตุให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือนได้ โดย และหากปรับการกินยาคุมกำเนิดถูกวิธีแล้ว อาการยังไม่่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขต่อไปค่ะ
อย่าง ไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นยาอะไร ก็ย่อมต้องมีผลข้างเคียงบ้างไม่มากก็น้อย อยู่ที่สภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย โดยเฉพาะกับยาคุมกำเนิด ดังนั้น คงดีกว่าหากเราจะปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนจะรับประทานยา หรือจะเลือกวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่น ๆ ก็ได้ค่ะ
ที่มา www.kapook.com