SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 1266
ตั้งชื่อเรื่องไว้แบบนี้บางท่านอาจ จะประหลาดใจ ชวนให้คนค้าน เพราะแพทย์ส่วนใหญ่และคนทั่วไปเกือบทุกคนมักจะรู้สึกว่าท้องเสียเป็นเรื่อง ธรรมดา แล้วทำไมผู้เขียนถึงได้ตั้งชื่อเรื่องเช่นนี้ หรือต้องการจะบอกอะไร
อันที่จริงก็เป็นความตั้งใจจะให้เกิดความกังขาอยู่เหมือนกัน เพราะว่าถ้าเขียนเรื่องท้องเสีย คนอ่านก็คงมีน้อยเพราะเป็นเรื่องปกติที่รู้ ๆ กันอยู่ หรือเคยอ่านมามากมายแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ แต่ถ้าลองติดตามอ่านเรื่องนี้ไปจนจบจะได้ประโยชน์และหลายท่านคงจะเห็นคล้อย ตามกับผู้เขียน
โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง หมายถึงการถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะเหลวหรืออุจจาระเป็นน้ำเกินกว่า 2 ครั้งใน 1 วัน หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือดเพียงครั้งเดียวก็จัดว่าท้องเสีย
ในอดีตจะเรียกลักษณะที่อุจจาระเป็นมูกปนเลือดว่าเป็นโรคบิด เพราะผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดบิดในท้องขณะที่เบ่งอุจจาระร่วมด้วย
โรคท้องเสียมีทั้งท้องเสียเฉียบพลันและท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งท้องเสียเฉียบพลันนั้นเป็นไม่กี่วันรักษาไม่กี่วันก็หาย แต่ท้องเสียเรื้อรังนั้นหมายถึงมีอาการนานเกิน 2 สัปดาห์ สาเหตุของท้องเสียแบบเฉียบพลันก็จะแตกต่างจากกรณีเรื้อรัง
ท้องเสียเฉียบพลันมักเกิดจากอาหารเป็นพิษหรือการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือ พยาธิในลำไส้
ส่วนท้องเสียแบบเรื้อรังมักเกิดจากการอักเสบของลำไส้ชนิดที่ไม่ใช่จากอาหารเป็นพิษ หรือ การติดเชื้อธรรมดา แต่มักเกิดจากการย่อยและการดูดซึมอาหารผิดปกติ การอักเสบจากภูมิแพ้หรือติดเชื้อแปลก ๆ หรือเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร ดังนั้นท้องเสียแบบเรื้อรังจึงจัดเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา
แม้แต่ท้องเสียแบบเฉียบพลันที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา ก็ยังพบว่าบางกรณีอาจทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาไม่ถูกต้องหรือช้าเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ที่เสียชีวิตจากท้องเสียเฉียบพลันจะเกิดจากภาวะช็อก
อาการช็อกเนื่องจากท้องเสียส่วนมากเกิดจากการขาดน้ำและเกลือแร่ปริมาณมาก ส่วนน้อยเกิดจากภาวะโลหิตเป็นพิษซึ่งทั้ง 2 กรณีมีอาการเตือนแต่ถูกละเลยทั้งจากผู้ป่วยและแพทย์ ถ้าสังเกตได้ก่อนที่จะช็อกก็จะรักษาได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด ดังนั้นทุกคนควรจะรู้จักอาการเดือนเหล่านี้เป็นอย่างดีและจำไว้ให้แม่น วันหนึ่งอาจช่วยชีวิตคุณหรือคนที่คุณรักได้
ปกติเวลาเขียนบทความที่ไม่ใช่ตำรามักจะไม่เขียนเป็นข้อ ๆ แบบนี้แต่ครั้งนี้ตั้งใจและต้องการให้ผู้อ่านได้จำ 6 ข้อ สัญญาณอันตรายก่อนเกิดอาการช็อก พยายามจำให้ขึ้นใจ เวลามีอาการท้องเสียเฉียบพลันไปพบแพทย์ต้องบอกแพทย์ให้ตรง 6 ข้อนี้ว่ามีหรือไม่มี สำหรับแพทย์ก็ขอให้บันทึกอาการทั้ง 6 ข้อนี้ทุกครั้งที่ให้การตรวจรักษาผู้ป่วยท้องเสียเฉียบพลัน
จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่า แพทย์ส่วนใหญ่จะบันทึกอาการเฉพาะที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารเวลาตรวจผู้ป่วย ท้องเสีย ซึ่งได้แก่ อุจจาระมีลักษณะอย่างไร ถ่ายมากน้อยแค่ไหน ปวดท้องหรือไม่ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด หรือมีใช้ร่วมด้วยหรือไม่ มีส่วนน้อยที่จะบันทึกสัญญาณอันตรายทั้ง 6 โดยครบถ้วน ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องมีส่วนร่วมด้วยโดยบอกแพทย์ไม่ว่าแพทย์จะถามหรือไม่ก็ ตาม
สัญญาณ อันตรายทั้ง 6 ข้อนี้ ยังใช้ได้กับโรคอื่น ๆ ที่จะเกิดอาการช็อกแทรกช้อนได้ เช่น โรคติดเชื้อต่าง ๆ การบาดเจ็บรุนแรง การขาดอาหาร และขาดน้ำรุนแรง โรคในระบบต่าง ๆ อาการแพ้รุนแรงและภาวะพิษจากยาหรือสารเคมีอื่น ๆ
สิ่งที่ต้องย้ำเตือนสำหรับผู้ป่วยทุกคนคือ ถ้าเกิดอาการท้องเสียเฉียบพลันควรดื่มน้ำผสมเกลือแร่ให้มาก ๆ อย่าดื่มแต่น้ำเปล่า เพราะถ้าท้องเสียถ่ายอุจจาระเป็นน้ำหลาย ๆ ครั้ง ร่างกายจะสูญเสียทั้งน้ำและเกลือแร่ การดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ความเข้มข้นของเกลือแร่ในเลือดต่ำลง เกิดอาการคลื่นไส้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว อาจเกิดอาการสับสน ซึมลง หมดสติ และชักได้
สัญญาณอันตรายก่อนอาการช็อก
1. กระหายน้ำมาก ปากคอแห้ง
2. อ่อนเพลียมาก
3. หน้ามืด ใจสั่น โดยเฉพาะเวลา ลุก นั่ง หรือยืน ถ้ามีอาการเกือบเป็นลมหรือเป็นลม คือ หน้าซีด เหงื่อแตก มือและเท้าเย็น หน้ามืด อ่อนแรงและหมดสติชั่วครู่ พอนอนราบก็รู้สึกตัว
4. ปัสสาวะน้อย สีเข้ม
5. เบ้าตาลึก คล้ำลง
6. หนังเหี่ยวย่นกว่าเดิม
ที่มา www.kapook.com
ท้องเสีย เรื่องที่ไม่ธรรมดา อย่าชะล่าใจ
ตั้งชื่อเรื่องไว้แบบนี้บางท่านอาจ จะประหลาดใจ ชวนให้คนค้าน เพราะแพทย์ส่วนใหญ่และคนทั่วไปเกือบทุกคนมักจะรู้สึกว่าท้องเสียเป็นเรื่อง ธรรมดา แล้วทำไมผู้เขียนถึงได้ตั้งชื่อเรื่องเช่นนี้ หรือต้องการจะบอกอะไร
อันที่จริงก็เป็นความตั้งใจจะให้เกิดความกังขาอยู่เหมือนกัน เพราะว่าถ้าเขียนเรื่องท้องเสีย คนอ่านก็คงมีน้อยเพราะเป็นเรื่องปกติที่รู้ ๆ กันอยู่ หรือเคยอ่านมามากมายแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ แต่ถ้าลองติดตามอ่านเรื่องนี้ไปจนจบจะได้ประโยชน์และหลายท่านคงจะเห็นคล้อย ตามกับผู้เขียน
โรคท้องเสียหรืออุจจาระร่วง หมายถึงการถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะเหลวหรืออุจจาระเป็นน้ำเกินกว่า 2 ครั้งใน 1 วัน หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือดเพียงครั้งเดียวก็จัดว่าท้องเสีย
ในอดีตจะเรียกลักษณะที่อุจจาระเป็นมูกปนเลือดว่าเป็นโรคบิด เพราะผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดบิดในท้องขณะที่เบ่งอุจจาระร่วมด้วย
โรคท้องเสียมีทั้งท้องเสียเฉียบพลันและท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งท้องเสียเฉียบพลันนั้นเป็นไม่กี่วันรักษาไม่กี่วันก็หาย แต่ท้องเสียเรื้อรังนั้นหมายถึงมีอาการนานเกิน 2 สัปดาห์ สาเหตุของท้องเสียแบบเฉียบพลันก็จะแตกต่างจากกรณีเรื้อรัง
ท้องเสียเฉียบพลันมักเกิดจากอาหารเป็นพิษหรือการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือ พยาธิในลำไส้
ส่วนท้องเสียแบบเรื้อรังมักเกิดจากการอักเสบของลำไส้ชนิดที่ไม่ใช่จากอาหารเป็นพิษ หรือ การติดเชื้อธรรมดา แต่มักเกิดจากการย่อยและการดูดซึมอาหารผิดปกติ การอักเสบจากภูมิแพ้หรือติดเชื้อแปลก ๆ หรือเป็นมะเร็งในทางเดินอาหาร ดังนั้นท้องเสียแบบเรื้อรังจึงจัดเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา
แม้แต่ท้องเสียแบบเฉียบพลันที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา ก็ยังพบว่าบางกรณีอาจทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาไม่ถูกต้องหรือช้าเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่ของผู้ที่เสียชีวิตจากท้องเสียเฉียบพลันจะเกิดจากภาวะช็อก
อาการช็อกเนื่องจากท้องเสียส่วนมากเกิดจากการขาดน้ำและเกลือแร่ปริมาณมาก ส่วนน้อยเกิดจากภาวะโลหิตเป็นพิษซึ่งทั้ง 2 กรณีมีอาการเตือนแต่ถูกละเลยทั้งจากผู้ป่วยและแพทย์ ถ้าสังเกตได้ก่อนที่จะช็อกก็จะรักษาได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด ดังนั้นทุกคนควรจะรู้จักอาการเดือนเหล่านี้เป็นอย่างดีและจำไว้ให้แม่น วันหนึ่งอาจช่วยชีวิตคุณหรือคนที่คุณรักได้
ปกติเวลาเขียนบทความที่ไม่ใช่ตำรามักจะไม่เขียนเป็นข้อ ๆ แบบนี้แต่ครั้งนี้ตั้งใจและต้องการให้ผู้อ่านได้จำ 6 ข้อ สัญญาณอันตรายก่อนเกิดอาการช็อก พยายามจำให้ขึ้นใจ เวลามีอาการท้องเสียเฉียบพลันไปพบแพทย์ต้องบอกแพทย์ให้ตรง 6 ข้อนี้ว่ามีหรือไม่มี สำหรับแพทย์ก็ขอให้บันทึกอาการทั้ง 6 ข้อนี้ทุกครั้งที่ให้การตรวจรักษาผู้ป่วยท้องเสียเฉียบพลัน
จากประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่า แพทย์ส่วนใหญ่จะบันทึกอาการเฉพาะที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารเวลาตรวจผู้ป่วย ท้องเสีย ซึ่งได้แก่ อุจจาระมีลักษณะอย่างไร ถ่ายมากน้อยแค่ไหน ปวดท้องหรือไม่ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด หรือมีใช้ร่วมด้วยหรือไม่ มีส่วนน้อยที่จะบันทึกสัญญาณอันตรายทั้ง 6 โดยครบถ้วน ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องมีส่วนร่วมด้วยโดยบอกแพทย์ไม่ว่าแพทย์จะถามหรือไม่ก็ ตาม
สัญญาณ อันตรายทั้ง 6 ข้อนี้ ยังใช้ได้กับโรคอื่น ๆ ที่จะเกิดอาการช็อกแทรกช้อนได้ เช่น โรคติดเชื้อต่าง ๆ การบาดเจ็บรุนแรง การขาดอาหาร และขาดน้ำรุนแรง โรคในระบบต่าง ๆ อาการแพ้รุนแรงและภาวะพิษจากยาหรือสารเคมีอื่น ๆ
สิ่งที่ต้องย้ำเตือนสำหรับผู้ป่วยทุกคนคือ ถ้าเกิดอาการท้องเสียเฉียบพลันควรดื่มน้ำผสมเกลือแร่ให้มาก ๆ อย่าดื่มแต่น้ำเปล่า เพราะถ้าท้องเสียถ่ายอุจจาระเป็นน้ำหลาย ๆ ครั้ง ร่างกายจะสูญเสียทั้งน้ำและเกลือแร่ การดื่มน้ำเปล่าจะทำให้ความเข้มข้นของเกลือแร่ในเลือดต่ำลง เกิดอาการคลื่นไส้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว อาจเกิดอาการสับสน ซึมลง หมดสติ และชักได้
สัญญาณอันตรายก่อนอาการช็อก
1. กระหายน้ำมาก ปากคอแห้ง
2. อ่อนเพลียมาก
3. หน้ามืด ใจสั่น โดยเฉพาะเวลา ลุก นั่ง หรือยืน ถ้ามีอาการเกือบเป็นลมหรือเป็นลม คือ หน้าซีด เหงื่อแตก มือและเท้าเย็น หน้ามืด อ่อนแรงและหมดสติชั่วครู่ พอนอนราบก็รู้สึกตัว
4. ปัสสาวะน้อย สีเข้ม
5. เบ้าตาลึก คล้ำลง
6. หนังเหี่ยวย่นกว่าเดิม
ที่มา www.kapook.com