SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 1344

เข้าหน้าฝน เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก


พอเข้าสู่ช่วงหน้าฝน  โรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอันดับต้นๆ  คงหนีไม่พ้น  ෴โรคไข้เลือดออก෴ ซึ่งมีเจ้ายุงลายวายร้ายเป็นพาหะ โดยมักจะเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำขัง ต่างๆ ในช่วงนี้  จึงทำให้เด็กๆ  เสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออก พ่อแม่ควรศึกษาวิธีป้องกัน และใส่ใจดูแลสุขภาพของลูกน้อยเพื่อพร้อมรับมือ෥
ทำความรู้จัก ෳโรคไข้เลือดออก෴
โรคไข้เลือดออก เกิดจากไวรัสเดงกี่ (Dengue) ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ เดงกี่ 1,2,3 และ 4 โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค คือ  ยุงลายจะกัดคนที่เป็นไข้เลือดออกก่อน แล้วจึงไปกัดคนที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้โรคแพร่สู่คนอื่นๆ ต่อไป ยุงลายนี้มักจะเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำนิ่งในบริเวณบ้าน เช่น ตุ่มน้ำ โอ่งน้ำ หรือหลุมที่มีน้ำขัง เป็นต้น
3 กลุ่มอาการขวนสังเกต
  1. กลุ่มอาการไข้ไม่ทราบสาเหตุ คือ อาการคล้ายติดเชื้อไวรัสทั่วไป มีไข้ หรืออาจมีผื่นร่วมด้วย
  2. กลุ่มอาการโรคเดงกี่ คือ จะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา อาจมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง
  3. กลุ่มอาการโรคไข้เลือดออก คือ มีอาการไข้สูงอย่างต่อเนื่อง 39-41 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 2-7 วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ หรือใต้ชายโครงขวา และในรายที่อาการรุนแรงอาจพบว่ามีอาการอาเจียนเป็นเลือดเกิดขึ้น
ไข้เลือดออก พ่อแม่ดูแลได้
  1. เช็ดตัว ร่วมกับให้รับประทานยาพาราเซตามอลเท่าที่จำเป็น  ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลถี่กว่าทุก 4 ชม./ครั้ง และไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน หรือยาลดไข้ไอบูโพรเฟน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงของภาสะเลือดออก
  2. ดื่มน้ำเกลือแร่ และรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารสีดำหรือแดง เช่น น้ำแดง แตงโม ช็อคโกแลต เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันการสับสนว่าลูกอาเจียนเป็นเลือดหรืออาหาร
  3. ติดตามอาการ ตามคำแนะนำของแพทย์  โดยเฉพาะช่วง 3-5 วัน หลังจากเริ่มมีไข้
  4. หากมีอาการรุนแรงดังต่อไปนี้  ควรรีบพบแพทย์ทันที
  •   มีเลือดออกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  •   ไข้ลดแต่อาการไม่ดีขึ้น
  •   อาเจียนมากและปวดท้องมาก
  •   ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติ
  •   ตัวเย็น เหงื่อออก ตัวลาย กระสับกระส่ายตัวและริมฝีปากเขียวคล้ำ
  •   ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ปัสสาวะเลย
  •   มีอารมณ์แปรปรวน เช่น  ซึมลง โวยวาย พูดจาหยาบคาย หรือ ก้าวร้าวทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สังเกตหนูสักนิด෥ 
ในเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 6 ขวบ) ถ้าปล่อยให้ลูกมีไข้สูงเป็นเวลานาน อาจทำให้ลูกเกิดภาวะชักจากไข้สูง (Febrile convulsion)ได้

ที่มา http://www.siphhospital.com/th/news/article-details.php?id=53