สำคัญกว่า พ่อแม่แยกทางกัน
Q. เราแยกทางกัน ตอนนี้ลูกยังไม่ถึงขวบครับ ผมอยากเตรียมตัวไว้ก่อน ลูกต้องถามแน่ เขาจะถามตอนอายุสักเท่าไหร่ครับ และควรจะพูดอย่างไร บอกตรงๆ ได้ไหม
ก่อนจะตอบคำถาม ผมชวนให้คิดถึงคำถามที่สำคัญกว่า คือเราเลี้ยงลูกไปเพื่ออะไร
เวลา
เรางงหรือสับสนว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไรกับปัญหาการเลี้ยงลูกที่เกิดขึ้น
ให้ถอยออกมาดูภาพใหญ่เสมอ ถามตนเองถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
นั่นคือเราเลี้ยงลูกไปเพื่ออะไร เราเลี้ยงลูกไปทำไม
คำตอบที่พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดหรือคาดหวังคือให้ลูกแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เติบโตไปมีสุขภาพจิตดี มีเงินใช้ มีเพื่อน มีคนที่รัก และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ใครจะเลี้ยงก็ตาม เป้าหมายสุดท้ายคือประมาณนี้
เด็กๆ
จะพัฒนาตนเองจนกระทั่งบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ต้องการคนดูแลที่ดีอย่างน้อย
1 คน คนนั้นเป็นแม่หรือพ่อได้ก็ดี เป็นคนอื่นก็พอไหว
ขอให้เลี้ยงเขาอย่างดีและเปิดโอกาสให้เขาสร้างความผูกพันหรือสายสัมพันธ์ที่
ดีและแข็งแรงด้วยเป็นใช้ได้
ดังนั้น เรื่องแยกทางจึงอาจจะมิใช่ประเด็น ประเด็นคือใครจะดูแลเขาดีที่สุด อย่างน้อย 1 คน กรุณาคิดดีๆว่าใคร
ใน
มุมมองของเด็กๆ หรือลูกของเรา เขาตั้งคำถามนี้เช่นกัน
ใครจะดูแลหนูอย่างดีที่สุด ป้อนข้าวป้อนน้ำ พาเข้านอน เล่นด้วย
ป้องกันอันตรายให้หนู ใครจะทำหน้าที่นี้
ส่วนเรื่องคนที่ทำหน้าที่นี้จะรักใครหรือไม่รักใครเป็นประเด็นรอง
วัน
หนึ่งเด็กก็จะถาม เราไม่ทราบว่าเด็กจะตั้งคำถามว่าอะไรเมื่ออายุเท่าไร
หลายท่านคงไม่ทราบว่าเขาตั้งคำถามตั้งแต่ยังพูดไม่ได้แล้ว
คำถามอาจจะมาในรูปของสายตา การกระทำ พฤติกรรมบางอย่าง พูดง่ายๆ
ว่าคุณถูกตั้งคำถามไปเรียบร้อยแล้ว
แต่เรื่องใครจะรักใครหรือไม่รัก
ใครเป็นเรื่องรองนี่ครับ
เรื่องใหญ่กว่าคือเรารักเขามากที่สุดและพร้อมจะดูแลเขาอย่างดีที่สุดโดยไม่
มีเงื่อนไข
แน่นอนว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาก็จะรู้ด้วยตนเองหรือถามอย่างตรงไปตรงมา
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่หรือการใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ของพ่อ
แม่ แต่สำหรับเด็กเล็กเรื่องนั้นเป็นเรื่องรอง
เมื่อเขาเป็นวัยรุ่น
เขาอาจจะอยากเป็นเหมือนบ้านอื่นๆ สักพักหนึ่ง แต่ก็เพียงพักหนึ่ง
หากเราให้โอกาสเขาอยู่กับความจริงและเรียนรู้ความจริง
และด้วยพื้นฐานที่เราเลี้ยงเขาอย่างดีที่สุดครั้งเป็นเด็กเล็ก
เขาก็จะยอมรับความจริงได้ และผ่านไปได้ในที่สุด
ผมเดาว่าคุณพ่อถามมา
เพราะกลัวลูกจะเป็นเด็กมีปัญหา
เด็กจะมีปัญหาเมื่อเขาพบว่าไม่มีเหลือสักคนเดียวที่รักเขาจริง เช่น
เขาสังเกตว่าทั้งสองท่านอารมณ์เสียและทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา เป็นต้น
หนักกว่านี้คือเขาคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อแม่เลิกกันเพราะเขาอยู่
ตรงกลางของการทะเลาะเบาะแว้งนั้นทุกที
ท่าทีสำคัญกว่าคำตอบ
Q. ในบ้านเราตอนนี้ ถึงลูกจะถาม ส่วนใหญ่เราจะเลี่ยงไม่ตอบครับ เพราะคิดว่าเด็กๆ ไม่ได้อยากรู้อะไรมากอยู่แล้ว การไม่พูดหรือตอบอะไรลูกเลย หรือบอกว่าตอนนี้เขายังไม่เข้าใจหรอก โตกว่านี้ค่อยรู้ จะดีหรือไม่ อย่างไร แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรด้วยครับ
การเลี่ยงไม่ตอบ ไม่ดี การไม่พูด ไม่ดี การบอกว่าตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ ไม่ดี
ก่อนจะอ่านต่อไป กรุณาอ่านคำตอบข้อที่แล้ว
หลัก
การของเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ของสามีภรรยาสิ้นสุดได้
ความสัมพันธ์ของพ่อลูกหรือแม่ลูกสิ้นสุดไม่ได้
หรืออย่างน้อยก็สิ้นสุดหมดสิ้นทั้งสองคนไม่ได้
เพราะชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งจะพัฒนาไปในทางที่ดีได้จำเป็นต้องสร้างสาย
สัมพันธ์หรือมีความผูกพันที่ลึกซึ้งต่อผู้เลี้ยงดู 1 คน
เมื่อสามี
ภรรยาสิ้นสุดได้ และไม่มีความจำเป็นต้องมีครบทั้งสองคน
อีกทั้งลูกก็ไม่ได้ใส่ใจจริงๆ ว่าพวกคุณสองคนจะทำอะไร
ที่เขาสนใจมากกว่าและเป็นกังวลมากกว่าคือใครจะเลี้ยงเขา
ดังนั้นคุณ
สามารถตอบความจริงได้เสมอไม่ว่าลูกอายุเท่าไรแต่ด้วยภาษาที่ลูกเข้าใจได้
ง่ายๆ และจะดีกว่ามากหากจะไม่มีอารมณ์โกรธ ขึ้ง เคียด
ประชดประชันฝ่ายตรงข้าม ต่อว่าหรือแม้กระทั่งพูดจาในทางร้ายต่อฝ่ายตรงข้าม
ความจริง 3 ข้อที่คุณพูดได้และควรพูดคือ
- พ่อแม่ได้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่อยู่ด้วยกัน
- พ่อแม่รักลูกมากที่สุดเสมอและจะช่วยกันดูแลลูกอย่างดีที่สุด
- ถึงพ่อ(หรือแม่)จะไม่สะดวกดูแลลูก แต่แม่(หรือพ่อ)จะรักลูก ดูแลลูก และอยู่กับลูกตลอดไป
ความจริงที่ตอบได้และควรตอบมีเพียงเท่านี้เอง ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงสำนวนได้ตามใจชอบแต่หลักๆ คือบอกความจริงที่กระชับและสั้น
มี
กติกาสองข้อที่ต้องยอมรับกันก่อน หนึ่ง ลูกมีสิทธิ์ถามซ้ำๆ
เราก็ต้องตอบซ้ำๆ มิใช่โมโหว่าตอบหลายครั้งแล้วพูดไม่รู้เรื่อง
ขอให้คิดถึงความกังวลของการถูกทิ้งให้ตายก็แล้วกันว่าน่ากลัวเพียงใด
ดังนั้นกรุณาเข้าใจเมื่อเขาถามซ้ำๆ สอง
คือเด็กแต่ละคนปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆกัน
นอกจากถามซ้ำแล้วบางคนอาจจะมีพฤติกรรมแปลกประหลาดเกิดขึ้น
ขอให้เข้าใจว่านั่นคือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของการปรับตัว
เราจำเป็นต้องให้เวลาเด็กปรับตัว ซึ่งแต่ละคนจะเร็วช้าไม่เท่ากัน
จนกว่าเขาจะยอมรับคำตอบของคุณได้ พฤติกรรมพิกลๆ บางอย่างจึงจะหายไป
เด็กบางคนถามว่าทำไม อันนี้คุณพ่อไม่ได้ถามมา ผมชิงตอบ
เรา
สามารถตอบได้ว่าพ่อแม่มีเรื่องที่คิดเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่องจึงตัดสินใจไม่
อยู่ด้วยกัน เด็กจำนวนหนึ่งพอใจกับคำตอบประมาณนี้
แน่นอนว่าจะมีอีกจำนวนหนึ่งที่ลงรายละเอียดและไล่เบี้ย คำตอบที่แนะนำคือ
ෳพ่อ(หรือแม่)ก็ไม่รู้เหมือนกัน෴ ซึ่งเป็นคำตอบที่เป็นจริงและถูกต้องที่สุด
เพราะ
ในความเป็นจริง พ่อแม่ที่แยกทางกันเอาเข้าจริงก็มึนๆ
ว่าไม่รู้เกิดขึ้นได้อย่างไร อาจจะมีบางคนทำอะไรผิดชัดๆบ้างในตอนแรก
แต่ปฏิกิริยานับจากนั้นมักสับสนอลหม่านจนกระทั่งไม่รู้ใครทำร้ายใครมากกว่า
กันเสมอ ดังนั้นอย่าอวดรู้ว่าตนเองรู้เพราะที่จริงก็ไม่ค่อยรู้
ก็จงตอบลูกไปตามจริงว่า ෳแม่(หรือพ่อ)ก็ไม่รู้เหมือนกัน෴
ที่สำคัญกว่าคำตอบคือท่าที ความจริงใจและความอ่อนโยนในการตอบ
ภาพประกอบ http://www.thinkstockphotos.com/