1 ไขมันบนหนังศีรษะ
บริเวณหนังศีรษะของทารกอายุระหว่าง 2 สัปดาห์ - 3 เดือนมักจะมีไขมัน (Cradle cap) ซึ่งเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากเกินไป ลักษณะคล้ายรังแคเป็นสะเก็ดสีเหลืองหรือสีน้ำตาล และจะค่อยๆ หายไปเองเมื่ออายุ 6-7 เดือน ทำความสะอาดได้โดยใช้เบบี้ออลย์นวดศีรษะตรงบริเวณที่มีไขมัน จากนั้นอาจใช้แปรงนุ่มๆ แปรงออกอย่างเบามือ และปิดท้ายด้วยการใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสระผมแล้วเช็ดศีรษะให้แห้ง

2 เล็บมือ
เพราะเล็บมือของเบบี๋มักจะยาวไวกว่าของผู้ใหญ่ และคมไม่แพ้เล็บของผู้ใหญ่เลยล่ะ หากปล่อยไว้หนูน้อยอาจใช้มือปัดแก้มและเล็บก็ไปขีดข่วนบนใบหน้าตัวเอง (หรือของคุณ) ได้ การตัดเล็บให้ลูกบ่อยๆ เช่น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็น่าจะเหมาะสม (แต่เล็บเท้าไม่ต้องบ่อยเท่านี้ก็ได้) และต้องเลือกเวลาตัดให้ดี เช่น ตอนนอนหลับ และตัดให้เสร็จเร็ว ไม่ทำให้เบบี๋รำคาญจนกระจองอแง

3 สายสะดือ
สายสะดือคือส่วนปลายของสายรกที่คุณหมอตัดไปเมื่อทารกคลอดออกจากท้องแม่ โดยทั่วไปภายใน 10-21 วัน สายสะดือนี้ก็จะแห้งและหลุดไปเอง การปล่อยให้สายสะดือหลุดตามธรรมชาติจะปลอดภัยต่อลูกมากกว่า ไม่แนะนำให้ดึงสายสะดือลูกเอง การดูแลรักษาสายสะดือควรพิถีพิถันอย่างมาก ควรให้บริเวณนี้แห้งอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอ้อมปิดทับ และหลังอาบน้ำให้ใช้สำลีหรือสำลีพันก้านซับให้แห้งอย่างเบามือ ตอนที่สายสะดือเบบี๋หลุด อาจมีเลือดออกเล็กน้อยถือว่าเป็นเรื่องปกติ ให้ใช้สำลีหรือผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดออก แต่ถ้าสายสะดือหลุดแล้วมีตุ่มแดงและมีน้ำเหลืองแฉะๆ แนะนำให้พาไปพบคุณหมอจะดีกว่าค่ะ

4 อวัยวะเพศ
ชาย อย่าปล่อยให้ผ้าอ้อมเฉอะแฉะ เพราะจะทำให้เกิดผดผื่นแพ้ได้ง่าย การทำความสะอาดที่ดีที่สุดคือใช้น้ำเปล่ากับสบู่อาบน้ำปกติของลูก หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีฟองมากเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคือง
หญิง ระหว่างเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำทำความสะอาด โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังอย่างเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางช่องคลอดของลูก อย่าลืมเช็ดบริเวณขาหนีบด้วยแล้วใช้ผ้าแห้งซับอีกที และทาครีมแก้แพ้ผื่นผ้าอ้อมถ้าลูกมีอาการแพ้ก่อนใส่ผ้าอ้อมผืนใหม่


ช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด หากเกิดอาการบวมแดงหรือมีเลือดไหลบริเวณอวัยวะเพศของเบบี๋ไม่ว่าชายหรือหญิง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เกิดจากฮอร์โมนที่ได้รับจากแม่ตอนอยู่ในท้องยังไม่หมด ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติ แต่หากอาการยังไม่หายภายใน 6 สัปดาห์ ควรพาไปพบคุณหมอค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/