SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 1490

หนทางเสริมภูมิคุ้มกันความเครียดให้คุณแม่



Working Women อย่างคุณ แต่ละวันอาจมีเรื่องมากมายให้ขบคิด มีปัญหาที่ต้องแก้ไขอยู่เสมอ ประกอบกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบและแข่งขันกับเวลา รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจในยุคน้ำมันแพง หรือแม้แต่การผจญกับปัญหาการจราจรที่ติดขัด จึงไม่แปลกอะไรที่คุณอาจเกิดอาการเครียดและประสาทเสียโดยไม่รู้ตัว เราจึงได้นำวิธีเสริมภูมิคุ้มกันความเครียดให้กับเหล่าบรรดา Working Women โดยเฉพาะผู้ที่เป็นคุณแม่มาฝากกัน

พูดระบายความเครียด หาที่ปรึกษาเพื่อระบายความเครียด ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บความเครียดไว้คนเดียว เล่าปัญหาให้บุคคลที่ไว้วางใจได้ฟัง เพราะการพูดจะช่วยให้คุณพิจารณาปัญหา และเข้าใจปัญหาได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งบรรเทาความกดดัน และคลายความรู้สึกเครียดลงได้

อาหารคลายเครียด การรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน นอกจากนั้นอาหารยังสามารถช่วยลดความเครียดได้ดีมากทีเดียว โดยเฉพาะอาหารประเภท ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใยสูง รวมทั้งอาหารเสริมอย่างซุปไก่สกัดติดต่อกันเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ของนักศึกษาแพทย์ที่เครียดจากการเตรียมตัวสอบ ช่วยให้นักศึกษารู้สึกผ่อนคลาย ความเครียดลดลง ทั้งยังช่วยให้ความจำดีขึ้น

ดนตรีบำบัด เลือกเพลงที่มีเนื้อหาที่ฟังไพเราะ เพลิดเพลิน สบายอารมณ์ ฟังแล้วสบายใจ หรือจะเป็นเพลงบรรเลงก็ได้ แล้วคุณจะพบว่า ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงโปรด เรามักจะเกิดความสุขใจ และเมื่อเกิดความสุข ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความสุขออกมา ส่งผลให้ร่างกายและจิตใจเกิดความผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เริ่มด้วยการนั่งหรือนอนในท่าที่สบายๆ ไม่มีใครมารบกวน เกร็งกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งให้เต็มที่ ทิ้งไว้สักอึดใจหนึ่ง แล้วจึงคลายออก ค่อยๆ ฝึกไปทีละส่วนทั่วร่างกาย หรือเฉพาะส่วนที่รู้สึกตึงเครียด โดยทำซ้ำประมาณ 8-12 ครั้ง จะช่วยให้อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลดลง รวมทั้งลดการคิดฟุ้งซ่านและวิตกกังวล จิตใจจะมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิม

ฝึกหายใจคลายเครียด หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ สังเกตว่ากระบังลมขยายออก ท้องป่องออก จากนั้นค่อยๆ หายใจออกช้าๆ ไล่ลมให้ออกมากที่สุด ควรทำติดต่อกันประมาณ 4-5 ครั้ง จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง สมองแจ่มใส เพราะได้ออกซิเจนมากขึ้น และการหายใจออกอย่างช้าๆ จะทำให้รู้สึกได้ปลดปล่อยความเครียดออกไปจากตัวจนหมดสิ้น

ขณะเดียวกันก็ไม่ควรละเลยในการดูแลสุขภาพของตัวเอง ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้มากขึ้น รวมทั้งหัดปล่อยวางปัญหาที่แก้ไม่ตกเสียบ้าง และหมั่นสร้างอารมณ์ขันให้กับตัวเอง เมื่อคุณผ่อนคลายความเครียดลงแล้ว สมองก็ปลอดโปร่งแจ่มใส มองโลกในด้านดี ต่อให้อุปสรรคมากมายขนาดไหน Working Women อย่างคุณก็สามารถฝ่าฝันได้สบายๆ แล้วการดำเนินชีวิตประจำวันก็จะดีขึ้น

ที่มา
http://www.yourhealthyguide.com/article/am-mother-mind.html