ทางลัดสุขภาพน่าลอง
ทางลัดสุขภาพน่าลอง
ตำราสุขภาพมีมาตรฐานของมันอยู่ก็จริง แต่ก็มีทางลัดอยู่ไม่น้อยที่เราสามารถปฏิบัติทดแทน และใช้เป็นทางเลือกได้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือการมีสุขภาพดีในแนวทางธรรมชาติ |
1 ทางลัดทานผัก-ผลไม้
สูตรมาตรฐาน:
เราควรทานผักและผลไม้สดให้ได้ทุกมื้อในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงที่ท้องว่างหรือก่อนอาหาร และควรเป็นผักผลไม้ที่มี เส้นใยไฟเบอร์มากๆ และมีน้ำตาลไม่สูงเกินไป
ทางลัด ทางเลือก#o#:
ถ้าการใช้ชีวิตในเมืองทำให้คุณทำจริงได้ยาก ลองพกวิตามินซีไว้ทานให้ได้วันละ 1,000 มก. หรือทานน้ำผลไม้ที่มีวิตามิน สูงๆ นอกจากนี้ ถั่วกระป๋องก็ไม่แย่จนเกินไปจอเพียงให้เราได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอ
2. ทานปลามีประโยชน์
สูตรมาตรฐาน:
ใครๆ ก็รู้ ว่าการทานปลามีประโยชน์มากมายขนาดไหน ยิ่งเป็นปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างปลาแซลมอน ปลาเทร้าท์ และปลาซาดีนด้วยแล้ว ก็ยิ่งต่อระบบสมองลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และยังเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายอีกด้วย
ทางลัด ทางเลือก#o#:
ถ้าปลาเหล่านี้หาทานยากและยังราคาสูง ลองเปลี่ยนมาเป็นการน้ำมันปลาชนิดแคปซูล หรือน้ำมันเมล็ดลินิน (Flaxseed Oil) ในปริมาณ 1,000 มก. ต่อวัน เพื่อทดแทนและเติมคุณค่าทางอาหารให้มากขึ้น
3. ล้างมือฆ่าเชื้อ
สูตรมาตรฐาน:
แม้ไม่ต้องรอหวัด 2009 ระบาด การล้างมือระหว่างวัน โดยเฉพาะก่อนทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย จึงเป็นที่แนะนำว่า การล้างมือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคให้น้อยลง ตราบใดที่มือเรายังจับใบหน้า ลำตัว สิ่งของ หรือแม้แต่เข้าห้องน้ำ และอาจเป็น สาเหตุของการเจ็บป่วยได้
ทางลัด ทางเลือก#o#:
หากต้องเดินทาง หรืออยู่นอกบ้าน การใช้ผ้าเปียก หรือแอลกอฮอล์ 60 % แบบเจล ก็พอช่วยให้เรามั่นใจขึ้นได้ แม้จะไม่ สะอาดเท่าล้างน้ำที่สามารถล้างซอกเล็บได้ แต่ก็ดีกว่ามากกับการไม่ป้องกันเลย
4. มื้อเช้าสำคัญที่สุด
สูตรมาตรฐาน:
ทุกตำรายกให้อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดของวัน (และไล่ความสำคัญลงไปตามช่วงเวลา) โดยการทานมื้อเช้าที่มี คุณภาพนั้น ก็ควรทานให้ครบทุกสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน (ที่ย่อยยากกว่าด้วย) ที่ควรทานให้เพียงพอ และบำรุง สมองให้พร้อมไปทั้งวัน
ทางลัด ทางเลือก#o#:
หลายคนข้ามมื้อเช้า แล้วไปทานมื้อเที่ยงทีเดียวซึ่งไม่ดีแน่ ทางที่ดีควรพกสูตรลัดอย่างการทานไข่, ซีเรียล และน้ำผลไม้ หรือทานซีเรียลอัดแท่งที่มีไฟเบอร์สูงๆ แล้วตามด้วยน้ำนมถั่วเหลืองอุ่นๆ สักแก้ว ทางออกแบบนี้ดีกว่ามาก หากเปรียบกับ การไม่ทานอะไรเสียเลย และยังเป็นการทำร้ายกระเพาะอาหารอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากsabai-arom และ www.teenee.com