SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 603

เรียนรู้โรคถุงลมโป่งพอง ปัญหาสุขภาพกำลังมาแรง


เรียนรู้โรคถุงลมโป่งพอง ปัญหาสุขภาพกำลังมาแรง

 

เรียนรู้โรคถุงลมโป่งพอง ปัญหาสุขภาพกำลังมาแรง (ไทยโพสต์)

          ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร รองประธานมูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพอง (COPD) เป็นสาเหตุการตายของประชากรทั่วโลกเป็นลำดับที่ 6 ในปี ค.ศ. 1990 และเป็นลำดับที่ 5 ในปี ค.ศ. 2001 โดยมีสาเหตุสำคัญ คือควันบุหรี่และควันจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง

          องค์การอนามัยโลกประมาณการว่า ทั่วโลกมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวประมาณปีละ 3 ล้านคน และโรคนี้จะเลื่อนขึ้นมาเป็นสาเหตุการตายของประชากรโลกเป็นลำดับที่ 4 ในปี ค.ศ. 2030 ด้วยเหตุนี้ องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคถุงลมโป่งพองแห่งโลก (Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease-GOLD) จึงได้ร่วมกันกำหนดให้มีวันถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) ขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 เป็นต้นมา

          โดยกำหนดให้วันพุธสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือนพฤศจิกายนเป็นวันดังกล่าว เพื่อกระตุ้นเตือนให้บุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักว่า โรคนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุขของประเทศที่สำคัญโรคหนึ่ง อันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่

          คุณหมอชัยเวชเปิดเผยว่า ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ต้องทุกข์ทรมานจากอาการไอเรื้อรัง เหนื่อย และหายใจลำบาก ซึ่งเนื่องจากความเสื่อมของถุงลมและปอด ซึ่งผู้ป่วยควรได้รับ การดูแลรักษาเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคควรได้รับการตรวจสมรรถภาพปอด เพื่อให้พบโรคในระยะแรก ๆ

          โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่มีภาวะของการอุดกั้นอย่างเรื้อรังของหลอดลมทั่วปอดทั้งสองข้าง โดยมีพยาธิสภาพเกิดขึ้นที่หลอดลมขนาดเล็กและที่ถุงลม เนื่องจากการสูบบุหรี่ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาแรมปี สารมลพิษในควันบุหรี่หลายชนิดก่อการระคายเคืองต่อหลอดลม และทำลายผนังถุงลม ทำให้เนื้อเยื่อซึ่งโยงยึดหลอดลมและถุงลมเสื่อมลง

          หลอดลมเล็ก ๆ ขาดการยึดโยงที่ดีจึงแฟบตัวได้ง่าย เกิดการอุดกั้นของอากาศที่ผ่านหลอดลม โดยเฉพาะในจังหวะของการหายใจออก ทำให้มีลมค้างอยู่ในถุงลมมากขึ้น (ถุงลมโป่งพอง) การมีลมค้างในถุงลมทำให้ผู้ป่วยสูดหายใจเข้าได้ไม่เต็มที่ และเกิดอาการ เหนื่อย นอกจากนี้ ควันบุหรี่ที่ระคายเคืองหลอดลมอยู่นาน ๆ ทำให้ผนังหลอดลมอักเสบและหนาขึ้น มีเสมหะมากขึ้น

          อาการสำคัญของผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองก็คือ อาการไอเรื้อรังมีเสมหะและอาการเหนื่อย ซึ่งจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นตามการเสื่อมของถุงลมในปอด และในที่สุดจะมีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำและหัวใจวายตามมา ผู้ป่วยเหล่านี้จะเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนซึ่งได้แก่ ปอดบวม ภาวการณ์หายใจวาย และภาวะหัวใจวาย

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรคถุงลมโป่งพองจะเป็นปัญหาที่สำคัญทางสาธารณสุขโรค หนึ่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่ความตระหนักและการรับรู้ของประชาชนในโรคนี้ ยังมีไม่มากเท่าที่ควร ในการรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ และความตระหนักต่ออันตรายของโรคนี้ที่มีต่อ คุณภาพชีวิต จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งได้แก่บุคลากรทางการ แพทย์ ผู้ป่วย สื่อมวลชน และประชาชน

          ดังนั้นชมรมถุงลมโป่งพองจึงได้ร่วมกับ มูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานวันถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) ขึ้นในวันที่ 14 พ.ย. 53 เวลา 12.00-16.00 น. ณ ห้องศรี สุริยวงศ์ ชั้น 11 โรงแรมตวันนา ถนนสุรวงศ์

          ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ ให้บริการตรวจสมรรถภาพการทำงานของปอด วัดปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด วัดความดันของโลหิต การแสดงบนเวที พร้อมเล่นเกมรับของที่ระลึกในงาน และร่วมออกกำลังกายกับทีมกายภาพบำบัด นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการ อภิปรายให้ความรู้เรื่องอาหารและยาสำหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง สิ่งแวดล้อมในอาชีพ และในบ้านที่มีผลเสียสำหรับถุงลมโป่งพองให้กับผู้สนใจ ฟรี! ตลอดงาน จึงขอเชิญชวนสมาชิกหรือผู้สนใจเข้าร่วมงาน โปรดแจ้งได้ที่ มูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย โทร. 0-2617-0649, 08-6535-0872


ที่มา  ไทยโพสต์ และ www.kapook.com