SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 729

กิน෴วิตามินซี෴เสริมดีหรือไม่


กิน෴วิตามินซี෴เสริมดีหรือไม่

 

ตอนเด็ก ๆ หลายคนชอบกินวิตามินซีชนิดเม็ด เพราะคุณพ่อคุณแม่หาซื้อมาประเคน นัยว่าป้องกันโรคลักปิดลักเปิด พอโตขึ้นหลายคนก็ยังกินอยู่ เพราะสะดวก หรือบางคนอาจจะไม่ชอบกินผลไม้

ดังนั้นเพื่อ ให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลในเรื่องนี้ X-RAY สุขภาพ จึงมาพูดคุยกับ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ นพ.กฤษดา กล่าวว่า วิตามินซีชนิดเม็ดที่ขายกันอยู่มีทั้งวิตามินซีธรรมชาติ และสังเคราะห์ โดย ชนิดที่เป็นสารสัง เคราะห์ ประกอบด้วย กรดแอสคอบิก ผสมกับน้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป มีการเติมสี แต่งกลิ่น แต่งรส ดังนั้นการกินวิตามินซีชนิดเม็ดจะได้ความหวานด้วย โดยเฉพาะที่เป็นชนิดแบบอมเล่น รสผลไม้ ทั้งหลาย

      ถามว่าวิตามินซี ชนิดเม็ดให้คุณค่าเช่นเดียวกับผลไม้ที่มีวิตามินซีหรือไม่ ขอเรียนว่า ถ้าเป็นวิตามินซีธรรมชาติจะให้คุณค่าไม่ต่างจากผลไม้อุดมวิตามินซีทั่วไป แต่ถ้าเป็นวิตามินซีสังเคราะห์มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจทำให้เกิด มะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองและทำให้หลอดเลือดแข็งตีบในคนได้โดยหลักในการเลือกซื้อวิตามินซีธรรมชาติไม่ให้ดูแค่คำว่า ธรรมชาติ หรือ Natural ข้างฉลากเท่านั้น หากแต่ต้องดูคำว่า ผลิตจากผักและผลไม้ในสภาวะที่เหมาะสม หรือ Made from fruits and vegetables below 70 degrees แทน

        สำหรับความจำเป็นในการกินวิตามินซีชนิดเม็ด นพ.กฤษดา บอกว่า หากกินผักผลไม้ไม่ค่อยไหวก็อาจรับประทานได้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้แทน เพราะอย่างไรก็ดีวิตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้น ๆ ช่วยด้วย ดังนั้นสูตรสำเร็จสำหรับผู้รักที่จะกินวิตามินซีก็คือ กินอาหารเสริมบวกอาหารสดนั่นเอง อาหารที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งกลมสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิ้ล และส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกวิตามินซี เพราะจะเห็นว่าผลไม้เปรี้ยวจัดอย่างมะยมหรือลูกเสาวรสไม่ติดอันดับต้น ๆ เลย

      นอกจากนี้อาหารธรรมชาติที่นึกไม่ถึงอีกชนิดที่มีวิตามินซีมาก คือ ปลาทะเลดิบ มีกรด แอสคอบิกมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าชาวเอสกิโมนั้นแม้ไม่ค่อยได้บริโภคพืชผักผลไม้ ก็ยังไม่เป็นโรคขาดวิตามินซี  กลุ่มคนที่ควรรับประทานวิตามินซี คือ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นโลหิตจางและผู้รับประทานมังสวิรัติ เพราะบุหรี่หนึ่งมวนจะผลาญวิตามินซีไปเท่ากับส้มเขียวหวานราว 1 ผลเลยทีเดียว ส่วนโลหิตจางบางชนิดกับคนกินมังสวิรัตินั้นมักขาดธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์จึง ต้องอาศัยวิตามินซีช่วยจับธาตุเหล็กให้มากขึ้นแทน รวมถึงผู้ที่เริ่มสูงวัยหรือผิวพรรณเริ่มเสื่อมไป วิตามินซีจะช่วยกวาดสนิมแก่ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกของผิวให้คงรูปไม่เหี่ยวย่นเร็วเกินวัย วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิให้กับผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรัง ไอเรื้อรังหรือเป็นหวัดบ่อย นอกจากนี้ยังแก้เครียดด้วย เพราะเกี่ยวพันกับต่อมหมวกไตในการสร้างฮอร์โมนต้านเครียดและการอักเสบชื่อ ว่า คอติซอล

     กินวิตามินซีมากไปมีผลเสียหรือไม่? นพ.กฤษดา กล่าวว่า มีแน่นอน การกินนับสิบ ๆ เม็ดหรือบ้างก็ใช้ฉีดเข้าเส้นกันโดยหวังว่าจะรักษามะเร็งและโรคร้ายอื่นได้ มีงานวิจัยที่แสดงว่าวิตามินซีปริมาณมากอาจทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ได้ เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแข็งในมนุษย์ ทำให้ขาดธาตุทองแดงและน้ำย่อยสำคัญในร่างกาย  ส่วนอาการเตือนในช่วง แรกที่กินมากไปทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่สังเกตได้ อาทิ คลื่นไส้ ถ้ากินมากถึงแก่อาเจียน แสบร้อนกระเพาะอาหาร จุกใต้ลิ้นปี่ ระคายทางเดินอาหาร ถ่ายเหลว ปัสสาวะสีเข้ม

     อย่างไรก็ตามไม่ต้อง ตระหนกอกสั่นกับ วิตามินซีเป็นพิษ มาก เพราะว่ามันละลายน้ำได้ ถ้าได้เยอะเกินไปร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร จะแย่หน่อยก็ตรงเสียดายว่ามันจะกลายเป็นฉี่แพงไปหน่อยเท่านั้นเอง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ที่มา www.teenee.com