SELECT autopage4_data_topic.IdTopic , autopage4_page_topic.DataDetail , autopage4_page_topic.TitleDetail FROM autopage4_page_topic INNER JOIN autopage4_data_topic ON autopage4_data_topic.IdTopic = autopage4_page_topic.IdTopic AND autopage4_data_topic.IdTopic = 738
WHO เตือน โทรศัพท์มือถือ อาจก่อมะเร็ง
WHO เตือน โทรศัพท์มือถือ อาจก่อมะเร็ง
|
WHOเตือนมือถืออาจก่อมะเร็ง (ไทยโพสต์)
หน่วยงานวิจัยมะเร็งขององค์การอนามัยโลกระบุการใช้โทรศัพท์มือถือ "อาจจะก่อให้เกิดมะเร็ง" เพิ่มความเสี่ยงการเกิดเนื้องอกในสมองได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้ใช้ลดโอกาสเสี่ยงด้วยการใช้อุปกรณ์เสริม อุตสาหกรรมมือถือยันแค่ "อาจจะ" แต่ไม่ได้หมายความว่ามือถือจะเป็นสาเหตุของมะเร็ง
คณะนักวิทยาศาสตร์ 31 คนจาก 14 ประเทศ เข้าร่วมการประชุมของสำนักงานเพื่อการค้นคว้าวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (ไอเออาร์ซี) หน่วยงานในสังกัดองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่เมืองลียงของฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และมีแถลงการณ์ว่า การพิจารณาทบทวนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่มีอยู่ขณะนี้บ่งชี้ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือสมควรถูกจำแนกระดับความเสี่ยงว่า "อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งได้"
"หลังจากได้ทบทวนหลักฐานสำคัญทั้งหมดที่ เกี่ยวข้อง คณะทำงานจัดจำแนกให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นความถี่วิทยุอยู่ในประเภทที่อาจ ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์" โจนาธาน ซาเมต ประธานไอเออาร์ซี กล่าวพร้อมกับขยายความว่า หลักฐานบางอย่างแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการใช้โทรศัพท์มือถือ กับการเพิ่มความเสี่ยงของเนื้องอกเกลีย หรือมะเร็งสมองชนิดหนึ่ง
นักวิทยาศาสตร์กล่าวกันว่า การจำแนกประเภทดังกล่าว ซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงต่อการก่อมะเร็งในระดับเดียวกับตะกั่ว, ยาสลบ และกาแฟ อาจทำให้องค์กรดูแลด้านสุขภาพของสหประชาชาติแห่งนี้ต้องทบทวนคำแนะนำต่อการ ใช้โทรศัพท์มือถือเสียใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาดับเบิลยูเอชโอเคยกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานแน่นหนาที่เชื่อมโยงว่าการใช้โทรศัพท์มือถือก่อให้เกิดโรค มะเร็งในมนุษย์ได้ไอเออาร์ซีจัดจำแนกความเสี่ยงของมะเร็งในเชิงวิทยา ศาสตร์ไว้ 5 ระดับ ได้แก่ ก่อให้เกิดมะเร็งได้, น่าจะก่อให้เกิดมะเร็งได้, อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งได้, ไม่อาจจัดจำแนกได้ หรือไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง
นับแต่โทรศัพท์มือถือปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นทศวรรษ 1980 จำนวนผู้ใช้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันมีผู้ใช้ถึง 5,000 ล้านคน อุปกรณ์ชนิดนี้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันและสำหรับคนจำนวนมาก นอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารพูดคุย โทรศัพท์มือถือยังใช้เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อออนไลน์ และทำให้ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือมั่นใจว่า ภัยคุกคามต่อสุขภาพจะไม่ทำให้ผู้คนเลิกใช้โทรศัพท์มือถือตรงกันข้าม แมทธิว ธอร์นตัน นักวิเคราะห์จากเอเซียนซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า ผู้บริโภคที่เป็นกังวลจะหันไปซื้ออุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง มาใช้กันมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงมะเร็ง
ด้านกลุ่มองค์กรในอุตสาหกรรม นี้ซึ่งรอคอยผลสรุปของไอเออาร์ซีอย่างใจจดใจจ่อ ก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับผลดังกล่าว ซึ่งพวกเขาย้ำว่า เป็นระดับความเสี่ยงในประเภทเดียวกับอาหารจำพวกผักดองและกาแฟ
"การจัดจำแนกของไอเออาร์ซีหาได้หมายความว่าโทรศัพท์มือถือทำให้เป็นมะเร็ง" จอห์น วอลส์ จากสมาคมการสื่อสารไร้สาย ซีทีไอเอ ในสหรัฐ กล่าว และว่า คณะทำงานชุดนี้ไม่ได้ทำการค้นคว้าวิจัยใหม่ แต่เป็นทบทวนผลการศึกษาที่แล้ว ๆ มา นอกจากนี้หน่วยงานอื่นๆ เช่น คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐก็เคยระบุว่า "น้ำหนักของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เชื่อมโยงโทรศัพท์มือถือว่าก่อปัญหา สุขภาพ"
คริสโตเฟอร์ ไวลด์ ผู้อำนวยการไอเออาร์ซี ยอมรับว่า ยังต้องมีการค้นคว้าวิจัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลในระยะยาวและการใช้งานอย่างหนัก แต่ระหว่างนี้ ผู้ใช้ก็ควรลดความเสี่ยงเช่นใช้แฮนด์ฟรีหรือส่งข้อความแทน